เก็บเรื่องเล่าเอามาฝาก : สะสมบุญกันไว้เถิด
ในคราวท่านพระมหาโมคคัลลานะขึ้นไปบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
ก็ไปเห็นปราสาททิพย์
เต็มไปด้วยรัตนะ ๗ ประการ
มีนางเทพนารีมากมายโดยรอบทั้งทิศเบื้องบนด้วย
ท่านก็เลยถามนางเทพธิดาเหล่านั้นว่า
ปราสาทนี้เป็นของใคร
นางเทพธิดาเหล่านั้นก็บอกว่า
เป็นของท่านนันทิยคหบดี
ซึ่งตอนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่เป็นมนุษย์
พระมหาโมคคัลลานะ
ได้ลงมาแล้วก็มาเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า
กราบทูลถามว่าเป็นไปได้ไหม
บุคคลที่ยังมีชีวตอยู่
ได้ทำบุญถวายทาน
ตนเองก็ยังมีชีวิตอยู่
แต่ว่ามีวิมานเกิดขึ้นแล้วบนสวรรค์
พระพุทธเจ้าก็ตรัสตอบ
พระมหาโมคคัลลานะว่า
เรื่องนี้ก็เธอได้ฟังจากนางเทพอัปสร
บอกแก่เธอแล้ว มิใช่หรือ
ทำไมจึงยังมาถาม ตถาคตอีก
พระพุทธเจ้าก็รู้
พระมหาโมคคัลลานะท่านก็ถามซ้ำว่า
เป็นไปได้หรือ คนที่ยังไม่ได้ตายเลย
แต่ว่ามีวิมาน มีนางเทพอัปสร รออยู่แล้ว
พระพุทธเจ้าก็จึงตรัสว่า
อย่างนั้นแหละ
มหาโมคคัลลานะ
อุปมาเหมือนกับว่า
บุคคลที่ยืนรอคอยญาติของตนเอง
ที่จากไปนาน
รอวันจะกลับมา
ก็ยืนคอยอยู่ที่หน้าประตู
เมื่อเห็นญาติจะเป็นพี่เป็นน้อง
เป็นพ่อเป็นแม่อันเป็นที่รัก
ที่สนิทสนมกันกลับมาก็ จะดีอกดีใจ
ต้อนรับขับสู้ ต่างก็ร้องบอกว่า
มาแล้วๆ พ่อมาแล้ว แม่มาแล้ว
พี่มาแล้ว น้องมาแล้ว
ดีอกดีใจ คอยต้อนรับ
ฉันใดก็ฉันนั้น
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
บุคคลที่ทำบุญไว้
บุญทั้งหลายก็จะรอคอยอยู่
ย่อมต้อนรับบุคคลนั้น
บุคคลที่ทำบุญไว้
เมื่อละจากโลกนี้ไปแล้ว
บุญนั้นเขาก็จะรอต้อนรับอยู่
เหมือนญาติทั้งหลาย
ที่รอต้อนรับบุคคลอันเป็นที่รัก
นี้เป็นเรื่องที่ยืนยันว่า
บุญที่บุคคลทำไว้นั้น
มีผลเกิดขึ้น มีผลทันที
ด้านวัตถุนี้รออยู่แล้ว
แต่ด้านนามธรรม
คือด้านจิตใจนั้น
ก็ได้กับใจของผู้นั้นทันที
พอได้ทำบุญ จิตก็ปลื้มปิติ
อิ่มเอิบใจ มีความสุข
ใจเบิกบาน หน้าตาแจ่มใส
นี้ให้ผลทางด้านจิตใจ
เพราะฉะนั้น บุญจึงเป็นสิ่งที่
บุคคลควรจะได้สะสมไว้
กราบสาธุธรรมพระภาวนาเขมคุณ
(หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี)
วัดมเหยงคณ์ พระนครศรีอยุธยา
.......................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น